สาวๆ ยุคนี้หากไม่รู้จักพาเลทอายแชโด Naked ถือว่าล้าสมัยมากๆ ค่ะ แต่สำหรับผู้ที่ชอบการแต่งหน้า และรักความสวยความงามแล้ว ย่อมเป็นที่รู้จักกันดีแน่นอน เรียกว่าดังซะขนาดนี้ไม่ใช่แค่เฉพาะในไทยแต่ยังได้รับความนิยมจากสาวทั่วโลก ยิ่งไม่นานมานี้ทาง urban decay ได้ออกตัว Naked 3 น้องใหม่มาซึ่งก็เป็นไปตามคาดขายดีไม่แพ้รุ่นพี่อย่าง Naked 1และ Naked2 ที่ทำยอดถล่มทายมาก่อนเลยทีเดียว สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะซื้อพาเลทไหนดีจึงจะคุ้มค่า คุ้มราคาและสามารถใช้ได้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด วันนี้เราจะมารีวิว และเปรียบเทียบ Naked ทั้ง 3 พาเลทให้ชมกันค่ะ
ก่อนอื่นมาดูภาพเปรียบเทียบพาเลท Naked ทั้ง 3 ตัวกันก่อนนะคะ แต่ละพาเลทจะมีอยู่ 12 สี จะเห็นได้ว่าสีจากทั้งสามพาเลทดูจะคล้ายๆ กัน แต่หากเราพิจารณาดูดีแล้ว เราจะเห็นความแตกต่างทั้งสามพาเลท แบ่งออกเป็น 3 โทนสีด้วยกัน นั่นคือ Naked1 สีอบอุ่นน้ำตาลบรอนซ์ทอง Naked2 โทนเย็นเทาๆ หรือ/ Naked3 โทนหวานชมพู โดยจะขอเปรียบเทียบให้เห็นรายละเอียดทีละส่วน ดังนี้ค่ะ
 |
NAKED1 |
- Naked1 โทนอบอุ่น พาเลทนี้เรียกได้ว่าเป็นพาเลทแรกในซีรีย์นี้เลยทีเดียว ตลับเจ้าตัวนี้จะเป็นเนื้อกำมะหยี่สีน้ำตาลเข้มให้ความรู้สึกหรูหราต้องใช้อย่างระวังเลยค่ะเนื่องจากมีโอกาสเลอะได้ง่าย ส่วนเนื้อสีส่วนใหญ่จะผสมชิมเมอร์ค่อนข้างละเอียดเลย มีเนื้อแมทอยู่สองสี พาเลทนี้น่าจะเหมาะสำหรับคนแต่งหน้าไม่ค่อยเป็นหรือกำลังอยู่ระหว่างหัดแต่งหน้าใหม่ขอแนะนำเลยค่ะ เนื่องจากสามารถผสมสีเล่นสีได้อย่างที่ต้องการและจับคู่สีได้เกือบหมด มีทั้งโทนสีทอง ชมพู โทนสีเข้ม และโทนสีเบสิกให้เลือกใช้ รวมไปถึงสีสว่างๆ ที่ใช้ทำ ไฮไล้ท์และคัดเบ้าต่างๆ เรียกว่าทุกสีในพาเลทนี้สามารถใช้งานในได้ทุกโอกาส ครบสมบูรณ์แบบในตลับเดียวเอาอยู่ค่ะ หักคะแนนนิดนึงตรงตลับที่เลอะง่ายเนื่องจากเป็นกำมะหยี่ แต่โดยรวมแล้วโอเคมากๆ
 |
NAKED2 |
- Naked 2 สำหรับตัวนี้โทนสีจะออกไปทางน้ำตาลทองมากหน่อย เหมาะสำหรับใครที่ชอบแต่งตาโทนสีทอง เรียกว่ามีสีทองหลากหลายเฉดมาก เช่น ทองออกเหลือง ทองน้ำตาล ทองอมชมพู และทองอมส้ม พาเลทสีจะออกโทนอบอุ่นกว่า naked1 และไม่มีโทนชมพูเลย แต่งได้ทุกสีผิว แต่จะเหมาะและเกิดมากๆ กับสาวผิวสีน้ำผึ้ง หรือผิวสองสีค่ะ โดยในพาเลทนอกจากจะมีสีทองเฉดต่างๆ แล้ว ก็มีสีดำเข้มเนื้อแมท สีเงินและสีเงินออกไปทางขาว ติดมาด้วย เรียกว่าจับคู่สีไม่ยากอีกเช่นกัน พาเลทนี้ข้อดีอีกอย่างคือเป็นตลับจึงมีความแข็งแรงและคงทนมากขึ้น
พาเลทสุดท้าย
 |
NAKED3 |
- Naked3 ตัวนี้จะออกโทนชมพูน้ำตาลหวานๆ นุ่มๆ เรียกว่าโทนสีกุหลาบ ดูแล้วมีความเป็นผู้หญิงๆ มากขึ้นกว่าสองพาเลทแรก โทนสีแต่ละเฉดดูหวานละมุนไปหมดไล่โทนไปตั้งแต่ออ่นไปถึงเข้ม มีทั้งเนื้อแมท ชิมเมอร์ เหมาะสำหรับใครที่ชอบแต่งตาหวานๆ ใสๆ ทุกสีจะออกโทนชมพูหมดและมีสีดำผสม กลิตเตอร์ติดมาด้วย เรียกว่าแต่งออกมาจะได้ลุคหวานๆ เป็นธรรมชาติ แต่งไม่ยากสามารถจับคู่สวยหลายเฉดอีกเช่นกัน หากต้องการลุคเซกซี่ก็แค่ผสมสีเข้มๆ ในพาเลทได้ ส่วนตลับก็มีความแข็งแรงทนทานเช่นกัน
สรุปแล้วทั้งสามพาเลท ถามว่าเลือกแบบไหนดี ก็ขึ้นอยู่กับสาวๆ ว่าชอบโทนไหน ส่วนในเรื่องความคุ้มค่า เรียกว่าคุ้มค่าแน่นอนแม้ว่าราคาจะดูสูงไปนิด แต่ในเรื่องของการใช้งานแล้วถือว่าโอเคมากๆ เนื่องจากสีติดค่อนข้างทนนาน เม็ดสีแน่น และให้สีชัดไม่เพี้ยน ก็คงจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลนะคะว่าชอบพาเลทไหนฟันธงไม่ได้ แต่หากเลือกไม่ถูกจริงๆ ขอแนะนำว่า Naked1 เป็นอะไรที่เบสิกที่ควรมีไว้ในครอบครอง โดย naked2 น่าจะเหมาะกับสาวผิวเข้ม และnaked3 เหมาะกับสาวผิวขาว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่มีอะไรที่ตายตัว หากทุกคนรู้
เทคนิคการแต่งหน้า ที่ถูกวิธีแล้ว ไม่ว่าสีไหนๆ ก็แต่งออกมาได้สวยทั้งนั้นค่ะ ที่สำคัญเมื่อมีไว้ในครอบครองแล้วสาวๆ อย่าลืมใช้ให้คุ้มค่าคุ้มราคากันด้วยนะคะ
No comments:
Post a Comment