Showing posts with label เทคนิคความงาม. Show all posts
Showing posts with label เทคนิคความงาม. Show all posts

Sunday, May 18, 2014

เทคนิคแต่งหน้ากันเหงื่อหน้าร้อน แต่งอย่างไรให้สวยทนไม่เยิ้ม


หน้าร้อนนี้สาวๆ หลายคนคงประสบปัญหาแต่งหน้าแล้วไม่ติดทน เวลาเหงื่อออกเครื่องสำอางก็ละลายเยิ้ม หน้ามัน แถมแต่งได้แป๊บเดียวก็หลุดออกแล้ว ทำให้ต้องคอยโบ๊ะหน้าบ่อยเกินความจำเป็น ยิ่งทำให้หน้าเป็นคราบหนาโบ๊ะกว่าเดิม วันนี้เรามีเทคนิคการแต่งหน้าสู้แดดหน้าร้อน มาฝากคุณสาวๆ กันค่ะ ขั้นตอนจะเป็นอย่างไรไปดูกัน

ห้ามลืมทาครีมกันแดด  ก่อนแต่งหน้า สิ่งสำคัญที่สาวๆ ห้ามลืมเด็ดขาดเลยคือ การทาครีมกันแดดที่มีค่า spf ที่เหมาะสมกับผิวหน้า แม้จะเป็นวันหยุดอยู่กับบ้านก็ควรทาครีมกันแดดเนื่องจากแม้เราจะไม่ได้ออกนอกบ้านแต่แสงจากไฟฟ้า หรือแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือจอมือถือ ก็สามารถส่งผลต่อผิวหน้าเราได้ โดยหน้าร้อนนี้อาจเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมครีมกันแดดในตัวช่วยให้สะดวกในขั้นตอนเดียว เพื่อผิวเบาบางเหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆ ในตอนนี้

ใช้เครื่องสำอางค์กันน้ำ ควรใช้รองพื้น อายไลเนอร์ และมาสคาร่า ที่มีคุณสมบัติกันเหงื่อหรือกันน้ำได้ดี และไม่ควรทาหนาเกินไป ควรใช้แต่เบาบางจะเหมาะกว่าเนื่องจากหน้าร้อนต่อให้รองพื้นเป็นแบบกันน้ำแต่หากทาหนาเกินไปก็จะให้หน้าเยิ้มมันได้เวลาเจอแดดและเหงื่อออก โดยในส่วนของมาสคาร่าอาจะเปลี่ยนมาให้แบบใสแทนสีดำเข้ม

บรัชออนและอายแชโดเนื้อ เจล หรือทิ้นท์ แทนการใช้บรัชออนแบบฝุ่นหรือครีมที่อาจจะทำให้เครื่องสำอางค์ไหลมารวมตัวกันเป็นก้อนบนใบหน้าได้เวลาเจอเหงื่อหรือเวลาเติมหน้าบ่อยๆ ในหน้าร้อนนี้ ทางที่ดีควรหันมาใช้แบบเจล หรือใช้ทิ้นท์(แบบน้ำ) แทน ส่วนเปลือกตาควรทาอายไพรเมอร์เพื่อให้สีตาติดทนนาน และ

ลิปสติกผสมสารกันแดดเนื้อเบาบาง หน้าร้อนนี้แม้แต่ริมฝีปากก็ควรเลือกใช้ลิปสติกที่มีสารผสมกันแดด เช่น ลิปบาล์ม หรือลิปสติกสีบางเบา เช่น สีชมพูอ่อนๆ จะเหมาะกว่าการทาลิปสติกเนื้อหนาๆและแมทเกินไป

แต่งหน้าให้เบาบางมากที่สุด การแต่งหน้าเพียงบางๆ นอกจากจะช่วยให้ดูสวยใสเป็นธรรมชาติแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาคราบเหงื่อและเครื่องสำอางเป็นปื้นหนาเกินความจำเป็นได้ ที่สำคัญควรระวังหากเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของชิมเมอร์ เนื่องจากความวาวของชิมเมอร์จะยิ่งเพิ่มความมันวาวบนใบหน้ามากเกินไป

picture By stockimages,


Wednesday, May 14, 2014

สูตรความงามจากไข่ สวยได้ทั้งผิวและผม

สูตรหมักผมจากไข่แดง


ไข่อุดมไปด้วยโปรตีนสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากจะใช้ทำอาหารหลากหลายเมนูแล้ว เรายังสามารถนำไข่มาเป็นตัวช่วยในเรื่องความสวยความงามอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสูตรหมักผม และสูตรพอกหน้าจากไข่ ซึ่งแม้จะต้องทนกลับกลิ่นคาวของไข่แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ่มค่าสวยเป๊ะแน่นอน

ประโยชน์และสูตรความงามจากไข่แดงและไข่ขาว

สูตรหมักผมจากไข่แดง แก้ผมแห้งเสีย ช่วยบำรุงผม ให้เงางามเป็นประกายแข็งแรง วิธีการทำคือ ใช้ไข่แดง 1-2 ฟองผสมน้ำมันมะกอก (ในปริมาณที่พอดีและเหมาะกับความหนาและยาวของเส้นผม) คนให้เนื้อเข้ากัน จากนั้นพอกบนเส้นผมจนชุ่มให้ทั่วศีรษะ  แล้วใช้หมวกคลุมอาบน้ำ หรือผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำอุ่นคลุมผมไว้ (หรือหากใครมีเครื่องอบไอน้ำก็สามารถอบไอน้ำได้เลย) ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง จากนั้นสระผมด้วยแชมพูจนกว่าจะหมดกลิ่นคาวของไข่ สูตรนี้สามารถทำได้บ่อยหรืออาทิตย์ละ 1 ครั้ง ผลที่ได้จะช่วยให้ผมนุ่มสลวย เงางาม มีสุขภาพดี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผมเสียจากการดัด ย้อมสีจนผมแห้งเสีย

สูตรพอกหน้าจากไข่แดง (เหมาะสำหรับผิวแห้งแตกเป็นขุย) ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น เนียนนุ่มมีสุขภาพดี เริ่มด้วยล้างหน้าให้สะอาด ใช้เฉพาะไข่แดงเปล่าๆ หรือผสมน้ำผึ้ง คนให้เข้ากันแล้วพอกหน้าทิ้งไว้จนแห้งหรือรู้สึกตีงที่หน้า ล้างออกด้วยโฟมล้างหน้า และตามด้วยน้ำเย็นอีกครั้งเพื่อกระชับรูขุมขน ผลลัพธ์คือ หน้าเนียนนุ่มขึ้น สามารถทำได้บ่อยหรืออาทิตย์ละครั้ง  (สูตรนี้ไม่เหมาะกับสาวหน้ามัน)

สูตรพอกหน้าจากไข่ขาว ช่วยกระชับรูขุมขนและช่วยให้ใบหน้าขาวใส (เหมาะสำหรับผิวมันและผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง) หลังจากล้างหน้าให้สะอาด ใช้เฉพาะไข่ขาวผสมโยเกิร์ต น้ำผึ้ง น้ำมะนาว ผสมให้เข้ากัน(ในอัตราส่วนพอดีสำหรับพอกหน้า) พอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีหรือจนหน้าแห้งตึง แล้วล้างออกด้วยโฟมล้างหน้าจนสะอาด แค่นี้คุณก็สามารถมีใบหน้าขาวใสและรูขุมขนยังกระชับขึ้นด้วยค่ะ

สูตรลอกสิวเสี้ยนจากไข่ขาว ช่วยขจัดสิวเสี้ยน และผิวหน้าเนียนเรียบน่าสัมผัส เริ่มด้วยการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเพื่อเปิดรูขุมขน ใช้แผ่นสำลีไม่ต้องหนามาก จุ่มไข่ขาวที่เตรียมไว้ให้ชุ่มแล้ววางทับลงบนใบหน้ายกเว้นรอบดวงตา  ทิ้งไว้จนสำลีแห้งจนรู้สึกตึงที่ผิวหน้า แล้วค่อยๆ ลอกแผ่นสำลีออก ผลลัพธ์ที่ได้คือ สิวเสี้ยนที่จะหลุดลอกออกมา และใบหน้าที่นุ่มเนียนขึ้น สูตรนี้ควรทำอาทิตย์เว้นอาทิตย์กำลังดี แค่นี้ก็มีใบหน้าขาวใสเนียนนุ่มน่าสัมผัสแล้วละจ้า




Thursday, May 8, 2014

สวยด้วย 7 ผลไม้เพื่อความงามและสุขภาพ

7 ประโยชน์ของผลไม้เพื่อความงาม และสูตรพอกหน้าจากผลไม้ต่างๆ ที่อุดมไปด้วยวิตามินนานาชนิดช่วยให้ใบหน้าขาวใส ชะลอความแก่ ลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย มีอะไรบ้างไปดูกัน
ผลไม้เพื่อความงาม

 มะพร้าวกับความงาม
  •         มะพร้าว   เรียกได้ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ ผลการวิจัยระบุว่าในน้ำมะพร้าวอ่อนมีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงจึงช่วยชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ ถือเป็นน้ำเกลือแร่จากธรรมชาติ ช่วยให้สดชื่นหากดื่มหลังการออกกำลังกาย มีคุณสมบัติเป็นธาตุเย็นช่วยล้างพิษให้กับร่างกาย ในทางความงามคนโบราณใช้ประโยชน์จากน้ำมันมะพร้าวมาช้านาน ปัจจุบันน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นสาวๆ  นิยมนำมาใช้บำรุงผิวพรรณ และหมักผมให้เงางาม (อ่านน้ำมันมะพร้าวกับความงาม)
 มะเฟือง
  •         มะเฟือง  ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินบี ซี แมกนีเซียม มีเส้นใยและมีสรรพคุณเป็นยาระบายช่วยแก้ปัญหาท้องผูก สร้างกระดูกและฟันให้สุขภาพแข็งแรง ในทางความงามมีการสกัดน้ำมะเฟืองเป็นโทนเนอร์เพื่อช่วยให้ใบหน้าขาวใส หรือสามารถใช้ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะ แก้รังแค และช่วยให้ผมนุ่ม ลื่น (ผู้ป่วยไตระยะ 4-5 ไม่ควรกินมะเฟืองเปรี้ยวเนื่องจากเสี่ยงทำให้เกิดไตวายได้)
  •         องุ่น อุดมด้วยวิตามินและสารอาหารต่างๆ มากมาย มีประโยชน์ต่อผิวพรรณคือ ช่วยชะลอริ้วรอย ผิวสวย และลดปัญหาจุดด่างดำ สูตรความความงามจากองุ่น คือ นำองุ่นสีไหนก็ได้มาปั่นรวมกันกับแตงกวา และน้ำผึ้ง แล้วพอกให้ทั่วหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ช่วยให้ผิวหน้าสะอาดใสไม่แห้งกร้าน
สูตรมาร์กหน้าด้วยมะละกอ
  •         มะละกอ นอกจากจะมีประโยชน์ช่วยแก้ปัญหาท้องผูกและดีต่อการขับถ่ายแล้ว สาวๆ สามารถนำมะละกอสุกมาทำเป็นสูตรพอกหน้าได้ โดยการปั่นเนื้อผสมน้ำผึ้งใช้พอกหน้า 10-15 นาที ก่อนล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด จะช่วยให้ผิวหน้าสวยใส เต่งตึงและยังกระชับรูขุมขนได้เป็นอย่างด
สูตรมาร์กหน้าด้วยแอปเปิล
  •         แอปเปิ้ล มีวิตามินซี  สาร เบต้าแคโรทีน และเส้นใยที่มีคุณสมบัติช่วยลดความอยากอาหาร จึงเป็นผลไม้ที่เหมาะสมหรับผู้ที่กำลังอยากลดความอ้วนได้เป็นอย่างดี ในด้านความงามสามารถทำสูตรสครับหน้าจากแอปเปิ้ล โดยปั่นให้ละเอียดผสมน้ำผึ้งและโยเกิร์ต นำมามาร์กหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาที เมื่อล้างออกจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงคือ ใบหน้าขาวใส เนียนเรียบ ช่วยลดเลือนริ้วรอยและรูขุมขนกระชับขึ้น
สูตรมาร์กหน้าด้วยส้ม
  •         ส้ม เป็นผลไม้อุดมด้วยเส้นใยธรรมชาติ วิตามิน และ เกลือแร่ สามารถนำส้มมาเป็นสูตรพอกหน้าขาวใสได้ โดยการคั้นเอาน้ำส้มสดๆ ผสมโยเกิร์ตแช่เย็นคนให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกทิ้งไว้บนใบหน้าประมาณ 10-15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำอาทิตย์ละครั้งจะช่วยให้สดชื่นผ่อนคลายใบหน้าขาวใสขึ้นเรื่อยๆ
สูตรพอกหน้าด้วยกล้วย
  •         กล้วย ผลไม้สารพัดประโยชน์ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารเช่น แผลในลําไส้  ควรกินกล้วยหอมเป็นประจํา เนื่องจากกล้วยหอมมีสารเคลือบผิว ลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร และช่วยให้การขับถ่ายง่ายขึ้น สูตรสวยด้วยกล้วยหอม คือ ปั่นกล้วยหอมสุกผสมน้ำผึ้งและนมสดให้เข้ากัน แล้วพอกบนหน้าประมาณ 20 นาที ช่วยให้ใบหน้าเนียนนุ่ม น่าสัมผัส และยังช่วยกระชับรูมุขมขนได้ด้วย

Share

Thursday, May 1, 2014

how to แต่งตาแบบ V Shape ง่ายๆ คุณก็ทำได้




การแต่งตาแต่ละแบบ เหมาะกับลักษณะตาที่แตกต่างกันออกไป โดยส่วนมากแล้วไม่ยากค่ะ ข้อสำคัญคือต้องรู้จักการเบลนสีที่ถูกวิธี หากใครทียังมือใหม่ เพิ่งเริ่ม หัดแต่งหน้า ก็พยายามเกลี่ยสีอายแชโด อย่างเบามือและแต้มทีละน้อยๆไปหามาก เพื่อกันความผิดพลาดทีจะเกิดขึ้นสำหรับ เทคนิคการแต่งหน้า ที่จะอธิบายวันนี้ ก็คือ การแต่งตาแบบ V- Shape แต่งแบบไหนอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ


 จากในรูปจะเห็นว่าไม่ยากเลย จำง่ายๆ หลักๆ เลยคือ หัวจาง(อ่อน) หางเข้ม (หัวกับหางในที่นี้หมายถึงหัวตากับหางตานะคะ หัวตาคือฝั่งที่ใกล้จมูก ส่วนหางคือฝั่งติดกับขมับนะจ้ะสาวๆ ที่ต้องอธิบายละเอียดขนาดนี้เนื่องจากยังมีบางคนสับสนระหว่างหัวกับหางค่ะ
V Shape eyes

วิธีแต่งตาแบบ V- Shape  ก็คือ 

  • ใช้สีอ่อนหรือสีสว่างทาทั่วเปลือกตาก่อน เน้นหัวตาให้สว่างเข้าไว้ จะใช้สีไหนก็ได้คะในการจับคู่ ยกตัวอย่างเช่น หากชอบสีชมพู ก็ให้ใช้สีชมพูอ่อนทาทั่วเปลือกตา 
  • จากนั้นแต้มสีชมพูเข้มแตะตรงหางตา ไม่ควรเกินปลายหางคิ้ว แล้วค่อยๆ เบลนสีโดยเกลี่ยเข้ามาทางหัวตาช้าๆ พยายามไม่ให้เห็นเป็นเส้น ค่อยๆ เกลี่ยจากชิดขอบตาขึ้นไปเรื่อยๆ จนสีเข้มดูฟุ้งๆ เป็นลักษณะตัว V โดยก้นตัววีจะหันออกไปทางขมับเรา ง่ายๆ คือลักษณะเหมือนตัววีนอนตะแคงนั่นเองค่ะ  
  • หากหางตาสีไม่เข้มพอ สามาถแตะสีดำผสมเข้าไปอีก หรืออาจใช้โทนสีใกล้เคียงกันได้ค่ะ ปกติสีที่มาในพาเลทแต่งตาเค้าจะกำหนดมาให้และไล่สีให้เรียบร้อยจากอ่อน กลาง เข้ม


หลักการจับคู่สีก็อย่างที่กล่าวไป คือ หัวตาใช้สีอ่อนทาบางๆ หางตาใช้สีเข้มเพื่อที่เราจะได้เห็นความแตกต่างระหว่างสองสีนั่นเอง หลักการนี้ใช้ได้กับทุกสีนะคะ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าใครชอบม่วงก็ใช้ม่วงอ่อนหัวตา หางตาก็ทาม่วงเข้ม  เขียวอ่อน-เขียวเข้ม ฟ้าอ่อน-น้ำเงินเข้ม เป็นต้น

tips: จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีหลักตายตัวว่าจะต้องใช้โทนสีเดียวกันมาตัดกันค่ะ อาจใช้สีดำในการตัดสีได้กับทุกสี เช่น ชมพู-ดำ  เขียว-ดำ หรือแม้แต่สีที่คนละโทนก็นำมาทาตัดกันได้ค่ะ แค่จำไว้ว่าหัวตาต้องอ่อนเข้าไว้ และหางตาต้องเข้มกว่า พยามเกลี่ยจุดตรงกลางระหว่างสองสีให้สม่ำเสมอกัน ง่ายๆ แค่นั้นเองคะ

หวังว่า เทคนิคการแต่งตา ที่อธิบายไปคงทำให้สาวๆ ที่เริ่มหัดแต่งตาจะได้ความรู้มากขึ้นนะคะ ส่วนจะแต่งตาอย่างไรให้สวย ก็ต้องอยู่ที่ความชำนาญของแต่ละคนที่จะฝึกฝนล่ะค่ะ ใครจะชอบสีไหนก็ต้องลองเล่นดูค่ะ ขอแนะนำว่าลองเอาสีผสมกันให้ออกมาเป็นสีใหม่ก็สวยไปอีกแบบค่ะ อย่างที่บอกการแต่งหน้าไม่มีหลักตายตัวค่ะ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ต้องลองเล่น ลองหัดผสมสี โดยแค่จำเฉพาะเรื่องพื้นฐานและการเบลนสีก็พอ ซึ่งก็ไม่ยากเกินความสามารถสาวๆ ที่ชอบการแต่งหน้าอยู่แล้ว อย่างไรก็ขอให้สนุกกับการแต่งตาที่เราแนะนำไปนะคะ พบกันใหม่คราวหน้ากับ การแต่งตาแบบสโมกกี้



Share


Tuesday, April 29, 2014

กินอะไรผิวสวย หน้าใส แถมสุขภาพดี


สุขภาพผิวของคนเรานั้น จะสวยผุดผ่องหรือหมองคล้ำแก่กว่าวัยขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมหลายประการไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้ครีมบำรุงเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น  สภาพแวดล้อม แสงแดด วัย ความเครียด การนอนหลับพักผ่อน การออกกำลังกาย และอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน ที่ต้องดูแลและควบคู่กันไป ในที่นี้เราจะพูดถึงอาหารที่นอกจากจะมีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ยังส่งผลถึงสุขภาพผิวที่ดีอีกด้วย อาหารสุขภาพผิวก็มีดังต่อไปนี้
  •        น้ำ แน่นอนว่าน้ำเป็นอาหารผิวที่มีความสำคัญต่อผิวอย่างมาก  แม้แต่เครื่องสำอางต่างๆในปัจจุบันนี้ยังต้องเน้นในเรื่องของการเติมน้ำให้กับผิว ดังนั้น การดื่มน้ำอย่างเพียงพอและถูกวิธีในแต่ละวันช่วยให้ผิวพรรณสดใส ชุ่มชื้น ไม่เหี่ยวแห้ง หยาบกระด้างชะลอริ้วรอยก่อนวัยได้เป็นอย่างดี
  • .      ผัก ผลไม้ สีสันต่างๆ เช่น เขียว แดง เหลือง ส้ม ม่วง ขาว  พืชผักและผลไม้สีสันต่างๆ เหล่านี้อุดมไปด้วยวิตามิน นานาชนิดที่ร่างกายต้องการ มีทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ และคอลาเจน ซึ่งนอกจากจะบำรุงร่างกายแล้วยังส่งผลต่อผิวพรรณเราให้สวยงามอีกด้วย ตัวอย่างผักผลไม่สีสันต่างๆ ก็มีมากมายตามท้องตลาดและหาซื้อได้ง่าย อาทิ แอปเปิล มะเขือเทศ พริกหวาน บล็อกโคลี่ แครอท ผักสีเขียวต่างๆ เป็นต้น
  •        ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆหรืออาหารที่มีส่วนผสมของถั่ว เช่น นมถั่วเหลือง มีวิตามินบี 6 และยังช่วยให้ผิวพรรณสดใส นอกจากนี้ควรทานข้าวกล้องแทนข้าวขาว หรือธัญพืชต่างๆ ทานเนื้อปลา บ่อยๆเนื่องจากมีไขมันโอเมกา-3 ช่วยฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง
stockimages 
นอกจากอาหารที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว สาวๆ ที่อยากมีสุขภาพผิวดี ควรล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้งก่อนนอนเพื่อลดการอุดตันหลังการแต่งหน้า รวมทั้งบำรุงผิวด้วยครีมทาผิวที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและไม่ควรนอนดึกมากเกินไป และควรหมั่นออกกำลังกายให้ได้อาทิตย์ละครั้งก็ยังดี ที่สำคัญไม่ควรเครียดและทำจิตใจให้ผ่องใสอยู่เสมอเทคนิคง่ายๆ เหล่านี้นอกจากจะช่วยให้สาวๆ มีสุขภาพที่ดีแล้ว ยังช่วยให้ผิวสวยเปล่งปลั่งอีกด้วย



photo By Supertrooper
Share

Sunday, April 27, 2014

รวมสูตรพอกหน้ากระชับรูขุมขนจากธรรมชาติ ทำเองง่ายๆ สวยได้ทันใจ


เคล็ดลับความงามวันนี้ ขอนำสูตรพอกหน้ากระชุบรูขุมขนให้เล็กลง ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติที่หาได้เอาง่ายๆ ที่บ้าน มานำเสนอค่ะ เนื่องจากช่วงนี้อากาศร้อน ส่งผลให้ผิวหน้าเกิดความมัน สิ่งที่ตามมาคือรูขุมขนเกิดการอุดตันและทำให้เกิดสิวและปัญหาผิวอื่นๆ ตามมามากมาย การพอกหน้าหรือมาร์กหน้าด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ นอกจากจะทำให้ใบหน้าใสสะอาด เนียนเรียบแล้ว ยังช่วยให้รูขุมขนกระชับอีกด้วยค่ะ ส่วนจะมีสูตรอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ
  •         สูตรกระชับรูขุมขนด้วย ไข่ขาว โยเกิร์ต และน้ำผึ้ง
วิธีการทำก็ง่ายแสนง่ายค่ะ ส่วนผสมที่ต้องเตรียมคือ น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนโต๊ะ  ไข่ 1 ฟองใช้เฉพาะไข่ขาว โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2-3 ช้อนโต๊ะ  นำส่วนผสมทั้งหมดผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน ล้างหน้าให้สะอาดจากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำให้สะอาด สามารถทำได้บ่อยหรือประมาณอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง อย่างสม่ำเสมอ คุณจะรู้สึกถึงความแตกต่างได้อย่างเห็นได้ชัด คือมีใบหน้าที่เนียนใสและรูขุมขนกระชับตื้นขึ้น
  •         สูตรกระชับรูขุมขนด้วยกล้วยสุก น้ำผึ้ง และนมสด
สูตรนี้จะใช้กล้วยหอมหรือกล้วยน้ำว้าสุกก็ได้ ผสมกับน้ำผึ้ง และนมผสมปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน ในอัตราส่วนที่สามารถใช้พอกหน้าได้ จากนั้นเตรียมล้างหน้าให้สะอาด และพอกหน้าด้วยส่วนผสมที่เตรียมไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที ก่อนล้างออกด้วยน้ำอุ่น และตามด้วยน้ำเย็นอีกรอบ สูตรนี้นอกจากจะทำให้รูชุมขนกชับแล้ว ยังช่วยให้ใบหน้านุ่มไม่แห้งกร้านอีกด้วยสามารถทำบ่อยได้ตามต้องการ
  •         สูตรกระชับรูขุมขนด้วย น้ำผึ้ง แตงกวา และมะนาว
นำส่วนผสมทั้งสามอย่างคือ น้ำมะนาวประมาณ  1  ซีก น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ และแตงกวาที่ปั่นละเอียดแล้ว ผสมทุกอย่างให้เป็นเนื้อเดียวกัน และนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ตามด้วยน้ำเย็น เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้ามันและรูขุมขนกว้าง จะช่วยให้ผิวสว่างใส ไม่มัน  รูขุมขนกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  •         สูตรกระชับรูขุมขนด้วย น้ำผึ้ง และมะละกอสุก
บดมะละกอสุกให้ละเอียดและเติมน้ำผึ้งลงไปประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ ใช้พอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้จะช่วยให้ใบหน้าตึง รูขุมขนกระชับ ช่วยให้หน้าใสลดเลือนจุดด่างดำ สามารถทำได้บ่อยตามที่ต้องการ
  •         สูตรกระชับรูขุมขนด้วยมะเขือเทศ โยเกิร์ต น้ำผึ้ง
ปั่นเอาน้ำมะเขือเทศสดๆ เตรียมไว้และเติมโยเกิร์ตและน้ำผึ้งลงไปประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน ใช้พอกหน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยให้ผิวหน้าดูกระชับ เต่งตึง และช่วยให้รูขุมขนสะอาดและเล็กลง

จะสังเกตได้ว่าสูตรมาร์กหน้ากระชับรูขุมขนที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จะมีส่วนผสมที่คล้ายๆ กันหลักๆ คือ น้ำผึ้ง มะนาว และโยเกิร์ต ดังนั้น สาวๆ ควรจะหาซื้อวัตถุดิบเหล่านี้ติดบ้านไว้อย่าให้ขาดนะคะ นึกอยากทำสูตรมาร์กหน้าขึ้นมาเมื่อไหร่จะได้หยิบมาใช้ได้ทันท่วงทีค่ะ ส่วนคราวเทคนิคความงามะนำเสนอสูตรพอกหน้าอะไรต้องติดตามค่ะ 
Share

Sunday, April 20, 2014

น้ำมันมะพร้าว ผู้ช่วยความงามสารพัดประโยชน์ คุณมีติดบ้านไว้รึยัง

เมื่อพูดถึงน้ำมันมะพร้าว (แบบสกัดเย็น) นับว่ามีประโยชน์ในเรื่องของความสวยความงามตั้งแต่ปลายผมจรดปลายเท้า เป็นผู้ช่วยสารพัดประโยชน์ในด้านความงามที่สาวๆ ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งในการซื้อหาติดบ้านไว้  ยิ่งนับวันสาวๆ ที่รักความสวยความงามไม่พลาดที่จะให้ความสนใจและนิยมในการนำน้ำมันมะพร้าวมาเป็นตัวช่วยความงามกันมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนคงสงสัยว่าน้ำมันมะพร้าวมีดีอะไรทำไมถึงช่วยเรื่องความงาม คำตอบก็คือ
  • ช่วยบำรุงผิวหน้าและผิวกายให้เนียนนุ่มชุ่มชื่นอ่อนเยาว์อยู่เสมอ สาวๆ หลายคนนิยมนำน้ำมันมะพร้าวแบบสกัดเย็นมาบำรุงผิวหน้า เนื่องจากมีสารให้ความชุ่มชื่นตามธรรมชาติ จึงมีสรรพคุณรักษาความชุ่มชื้นของผิวไม่ให้แตกแห้งกร้านเป็นขุยและช่วยให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัสอ่อนเยาว์ไม่แก่ก่อนวัย ใช้แทนครีมบำรุงผิวในเวลากลางคืนได้ด้วย วิธีใช้ก็ไม่ยากแค่ใช้น้ำมันมะพร้าว 1-2 หยดลูบไล้ให้ทั่วผิวหน้าหลังทาครีมบำรุงตามปกติ หรืออาจจะทาเฉพาะน้ำมันมะพร้าวอย่างเดียวก่อนนอนก็ได้ หากทำบ่อยๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด รอยสิวดูจางลง ผิวเนียนเรียบขึ้น สามารถใช้นำมันมะพร้าวทาผิวหลังการออกแดดหนักๆ เพื่อบรรเทาอาการแสบร้อยจากผิวไหม้แดด นอกจากนี้ยังใช้นำไปเป็นส่วนผสมการทำสครับริมฝีปากได้อีกด้วย
  • บำรุงผมให้นุ่มเป็นประกายเงางามและมีน้ำหนัก ครีมหมักผมยี่ห้อแพงๆ ใช่ว่าจะดีเสมอไปเพราะผสมสารเคมีที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ แต่น้ำมันมะพร้าวถือได้ว่าเป็นสารสกัดจากธรรมชาติล้วนๆ สามารถใช้หมักผมก่อนสระประมาณ 15-30 นาที จะช่วยให้ผมนุ่มลื่นและมีน้ำหนักเป็นประกายเงางาม ช่วยบำรุงศีรษะลดการเกิดของรังแคได้เป็นอย่างดี หากใช้บ่อยๆ จะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน เหมาะสำหรับฟื้นบำรุงผมแห้งเสียแตกปลายให้กลับมานุ่มลื่นมีน้ำหนัก ผมจะมีสุขภาพดีขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังช่วยให้ผมเกิดใหม่ดกดำและลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้เป็นอย่างดี
  • ล้างเครื่องสำอางได้เกลี้ยงสะอาดไม่เหลือคราบ  ยิ่งสาวๆที่ชอบแต่งหน้าจัดเต็ม วันไหนที่แต่งตา สโมกกี้หนักๆ เหมาะมากที่จะใช้น้ำมันมะพร้าวลบเครื่องสำอางบนใบหน้า Makeup remover ที่ว่าแพงๆ ดีๆ ยังต้องชิดซ้ายเมื่อเจอน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น วิธีใช้ก็ไม่ยากแค่หยดลงบนสำลีให้ชุ่มแล้วเช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้าให้เกลี้ยง แต่ถ้าจะให้ได้ผลดีควรเทบนฝ่ามือแล้วลูบไล้ลงไปบนใบหน้าเปลือกตาเพื่อบำรุงเสียก่อนสัก 2-3 นาทีนวดจนเครื่องสำอางคละลายบนใบหน้า จากนั้นนำสำลีแผ่นชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆ เช็คเครื่องสำอางออกและทำซ้ำจนกว่าสำลีจะสะอาดหลายรอบๆ คุณจะเห็นความแตกต่างทันทีคือ สามารถเช็ดเครื่องสำอางออกได้อย่างหมดจดไม่เหลือคราบ แทบต้องโละรีมูฟเวอร์แพงๆ เลยทีเดียว
ที่กล่าวมานี้แค่บางส่วนของประโยชน์จากน้ำมันมะพร้าวเท่านั้น น้ำมะพร้าวยังสามารถใช้เป็น น้ำยาบ้วนปากเพื่อกำจัดแบคทีเรียในช่องปากหรือที่  เรียกว่า Oil Pulling  ใช้บำรุงเล็บมือ-เท้าให้แข็งแรง รวมไปถึงหนุ่มๆ ข้างกายของสาวๆ สามารถใช้นำมันมะพร้าวทาก่อนโกนหนวด เพื่อช่วยลดการระคายเคืองจากคมมีดช่วยให้ผิวหนังไม่แสบและเนียนนุ่มน่าสัมผัสได้ด้วย  สมัยนี้การหาซื้อน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นถือว่าสะดวกสบายและมีให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย จึงไม่ใช่เรื่องยากในการจะมีไว้ติดบ้านสักขวด ราคาก็ไม่แพงแถมสารพัดประโยชน์ขนาดนี้สาวๆ อย่าพลาดเด็ดขาดค่ะ 
Share

Sunday, April 13, 2014

ฟื้นฟูผิวไหม้แดดจากสงกรานต์ ด้วยเคล็ดลับง่ายๆ แต่ได้ผล

 หลังเทศกาลสงกรานต์แต่ละปี สาวๆ มักเจอปัญหาผิวไหม้เกรียมจากแสงแดดที่แผดเผาระหว่างเล่นน้ำ ทำให้เกิดอาการแสบร้อนผิวกายและผิวหน้าตามมา สร้างความทรมานอย่างมากเนื่องจากทั้งแสบทั้งคันไม่สบายผิวเอามากๆ ยิ่งหลังจากเวลาผ่านไปแล้วผิวที่ถูกไหม้จะกลับดำคล้ำและลอกออกมา หากดูแลไม่ดีจะทำให้ผิวสวยๆ มีสีที่ไม่สม่ำเสมอและดำคล้ำกระดำกระด่างได้ วันนี้เทคนิคความงามมีเคล็ดลับการฟื้นฟูผิวไหม้จากแสงแดดหลังเล่นน้ำสงกรานต์มาฝากกันค่ะ
  •  หลีกเลี่ยงการสครับผิวในช่วงแรก ก่อนอื่นในช่วงแรกอาการจะยังคงแสบร้อนผิวอยู่มาก ในช่วงนี้ควรงดการสครับผิวไปก่อน และควรใช้ผลิตภัณฑ์จำพวก after sunเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณหลังการออกแดดหรือว่านหางจระเข้ลูบไล้บริเวณที่แดดไหม้ และใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งก้อนประคบตามร่างกายและผิวหน้าเพื่อบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน 
  • งดครีมเพื่อผิวขาวหรือมีส่วนผสมAHA ช่วงนี้ยังไม่ต้องรีบร้อนใช้ครีมจำพวกที่ทำให้ผิวขาวหรือมีส่วนผสมของ AHAเนื่องจากผิวเรายังไหม้อยู่ระหว่างนี้ควรรอให้ผิวหนังที่ถูกไหม้ตกสะเก็ดและลอกออกไปเสีย ก่อน ฉะนั้น ควรใช้ after sun รวมทั้งครีมหรือเจลพวกว่านหางจระเข้ต่อไปเรื่อยๆ
  • หลังผิวลอกทาครีมบำรุงและกันแดดตามปกติ เมื่อผิวเสียจากการไหม้แดดลอกออกหมดแล้วระหว่างนี้คือขั้นตอนการบำรุงผิวที่เกิดใหม่ไม่ให้ดำคล้ำโดยการทาครีมกันแดดและครีมบำรุงอย่างต่อเนื่อง 
  • สครับผิวอาทิตย์ละครั้ง ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วเพื่อเผยผิวใหม่ให้ขาวใส ต้องมั่นใจว่าผิวเกิดใหม่หลังจากถูกไหม้แดดแข็งแรงดีแล้ว จึงจะสามารถสครับผิวได้ โดยส่วนผสมง่ายๆ เช่น น้ำผึ้ง นมสด มะขามเปียก โยเกิร์ต และเกลือสปา เข้าด้วยกันและพอกให้ทั่วทั้งร่างกาย สครับเบาๆ ก่อนล้างออก และทาครีมบำรุงอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้อาจเริ่มใช้ครีมบำรุงที่ช่วยในเรื่องผิวขาวกระจ่างใสในช่วงนี้ 
  • ทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารกันแดด เมื่อผ่านช่วงเวลาเลวร้ายของผิวถูกทำร้ายมาแล้ว เราก็ควรกลับมาดูแลพิวพรรณของเราให้เป็นปกติและอาจจะมากขึ้นเป็นพิเศษด้วยการทาครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าและผิวกาย รวมทั้งใช้ครีมกันแดด ประมาณ 30 นาที ก่อนออกนอกบ้านทุกครั้ง 
          เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณสาวๆ เผยผิวใหม่อย่างมั่นใจได้อีกครั้ง

photo by posterize 

>>>>สุมนไพรกับความงาม

เทคนิคการแต่งหน้าแบบธรรมชาติใสๆ กระชากใจหนุ่ม


             เทคนิคความงามวันนี้ จะมาพูดถึง เทคนิคการแต่งหน้าลุคธรรมชาติ ใสๆ กันค่ะ เคยไหมคะสาวๆ แต่งหน้าทีไรมักติดนิสัย แต่งหน้าเข้มแบบจัดเต็ม วันไหนแต่งหน้าเบาๆ กลับรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจไม่ค่อยชินต้องคอยเติมนั่นนิด นู่นหน่อย สุดท้ายต้องจบลงด้วยใบหน้าเข้มๆ จนบางครั้งหนุ่มข้างกายบ่นกระปอดกระแปดทุกครั้งที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน การแต่งหน้าใสๆ บ้างกลับช่วยให้เราดูสวยใสและอ่อนกว่าวัยกว่าการแต่งหน้าเข้มๆ อีก การแต่งหน้าลุคธรรมชาติไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ เคล็ดลับคือ การเน้นโชว์ผิวธรรมชาติของเราให้มากที่สุด ขั้นตอนมีดังนี้
  •  เปลี่ยนจากรองพื้นหนักๆ มาเป็นการเลือกทาเฉพาะเบสใส  หรือบีบีเนื้อบางเบา บางครั้งการแต่งหน้าเพื่อวันเบาๆ ให้ลุคธรรมชาติไม่จำเป็นต้องลงรองพื้นทุกครั้ง อาจเปลี่ยนมาใช้แค่เบสหรือบีบีในปริมาณที่เล็กน้อย เพื่อปรับสภาพใบหน้าให้ดูผ่องใสเป็นธรรมชาติ
  • ใช้แป้งฝุ่นเนื้อโปร่งแสง แทนการทาแป้งผสมรองพื้นหนาๆ บางครั้งแป้งฝุ่นที่มีสี หรือแป้งตลับผสมรองพื้นจะยิ่งเพิ่มความหนาให้กับใบหน้ามากกว่าเดิม
    ตัวอย่างการเขียนคิ้วตรง
  • เขียนคิ้วให้ดูหนาและตรง การเขียนคิ้วเส้นเล็กและโก่งมากจนเกินไปจะยิ่งทำให้เราดูมีอายุและแก่กว่าวัย เทคนิคง่ายๆ คือเขียนตามรูปคิ้วเดิมพยายามอย่าลากดินสอให้เชิดขึ้นมากเกินไป
  • ทาตาด้วยอายแชโดสีสว่างหรือสีอ่อนๆ โดยอาจลงอายไพรเมอร์แล้วตามด้วยอายแชโดเนื้อครีมหรือเนื้อฝุ่นที่มีชิมเมอร์ผสมนิดๆ ทาให้ทั่วเปลือกตาบางๆ การแต่งตาด้วยชิมเมอร์นิดๆ จะช่วยให้ดวงตาดูสดใสอ่อนกว่าวัยลงได้ เทคนิคคือ งดคัดเบ้าตาหนักๆ
  • ดัดขนตาและปัดมาสคาร่าแบบใส แทนการใช้มาสคาราสีเข้มเหมือนที่ผ่านมาไม่จำเป็นต้องใช้แบบกันน้ำ และงดขนตาปลอมสำหรับลุคนี้
  • ปัดแก้มด้วยบรัชออนสีอ่อนๆ เนื้อครีมหรือฝุ่น หรืออาจมีชิมเมอร์ผสมเล็กน้อย เวลาใบหน้าตกกระทบแสงแดดจะทำให้ดูหน้าผ่องใสดูอ่อนกว่าวัย(ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง)
  • ทาลิปกลอสหรือลิปสติกสีอ่อน เช่น ชมพู สีพีช หรืออาจะใช้ทิ้นสีเข้มทาบริเวณปากด้านในตามด้วย  ลิปกลอสสีอ่อนทาทับอีกรอบแบบสาวอั้ม พัชราภา จะให้ลุคที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าการทาลีปสติกสีเข้มทั่วทั้งริมฝีปาก
         ขั้นตอนง่ายๆ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้สาวๆ ได้ไอเดียและเทคนิคการแต่งหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และได้       ลุคธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยให้ผิวหน้าได้พักผ่อนและลดการอุดตันจากเครื่องสำอางหนาๆ อีกด้วย

>>>

Thursday, April 10, 2014

แก้ปากแห้งให้นุ่มน่าสัมผัส ด้วยสครับน้ำผึ้งผสมน้ำตาล

เทคนิคความงามวันนี้ เคยไหมคะสาวๆ ที่ต้องเจอกับภาวะปากแห้ง ลอก แตกเป็นขุย ยิ่งใครที่ไม่ชอบดื่มน้ำแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ทาลิปสติกไม่สวย ไม่เนียน เอาซะเลย ทำให้การแต่งหน้าออกมาแล้วสาวๆ หลายคนไม่ค่อยแฮปปี้กันสักเท่าไหร่ อีกทั้งยังทำให้ผู้พบเห็นไม่ประทับใจเวลาเมื่อได้เห็นรอยยิ้มอันแห้งผากแถมแตกระแหงไม่สดใสเข้าไปอีก นับเป็นการบ่งบอกตัวตนคุณสาวๆ ได้อย่างดีว่าคุณเป็นคนไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่ตัวเองอย่างที่ควรอีกด้วยแต่ปัญหานี้มีทางออก การสครับริมฝีปากด้วยน้ำผึ้งผสมน้ำตาล คือทางออกของสาวๆ ปากแห้งทั้งหลายค่ะ ส่วนวิธีการก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก ดังนี้

Sunday, April 6, 2014

เทคนิคการแต่งหน้าแบบพริตตี้ ส่องเมคอัพพริตตี้สวยๆ งานมอเตอร์โชว์ 2014

ผ่านพ้นกันไปแล้วสำหรับงานมอเตอร์โชว์ 2014 นอกจากจะมีรถหลากหลายแบบมาให้เลือกชมกันแล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือสาวๆ พริตตี้นั่นเองที่เป็นสีสันและเรียกแขกให้งานนี้ได้อย่างดี หลายคนติดใจในความสวยใสไปตามๆ กัน โดยเฉพาะการแต่งหน้าพริตตี้ เรียกได้ว่าแจ่มๆ กันทั้งนั้นสาวๆ หลายคนคงสงสัยว่าเทคนิคการแต่งหน้าแบบพริตตี้มีอะไรบ้าง จริงๆ เคล็ดลับสำคัญของการแต่งหน้าของสาวๆ พริตตี้คือ หน้าต้องแน่น สว่าง และผ่อง ติดขนตาเด้งๆ กรีดตาให้คมเข้ม แค่นี้ก็สามารถแต่งตามไม่ยากแล้ว แต่ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออกเรามีภาพเมคอัพสวยๆ จากสาวๆ พริตตี้งานมอเตอร์โชว์ 2014 มาฝากกัน เพื่อเป็นแนวทางการแต่งหน้าและได้ไอเดียวเทคนิคความงามใหม่ๆ ไปชมกันเลยค่ะ 

“ชิมเมอร์” แต่งอย่างไรให้สวย ดิ้วอี้แบบสาวเกาหลี

เครื่องสำอางในท้องตลาดทุกวันนี้มักผสมชิมเมอร์เข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มความแวววาวสดใสให้กับสาวๆ ที่รักการแต่งหน้าทั้งหลาย ในที่นี้อาจมีสาวๆ หลายคนที่ยังไม่รู้ว่าชิมเมอร์คืออะไร ชิมเมอร์มีกี่ประเภท และมีความแตกต่างกันอย่างไร  ชิมเมอร์ คือ ประกายแวววาวที่ผสมอยู่ในเครื่องสำอางชนิดต่างๆ ช่วยให้การแต่งหน้าให้ผิวดูฉ่ำวาวได้ลุคดิวอี้ แบบเทรนด์สาวเกาหลี นั่นเองค่ะ เทคนิคความงามวันนี้ขอเสนอ

Saturday, April 5, 2014

ทาลิปสติกสีแดงอย่างไรให้สวย


ไม่ว่าจะยุคไหนๆ ลิปสติกสีแดงไม่เคยจะตกยุคและยังคงเป็นสีสากลที่ได้รับความนิยมคงความคลาสสิคอยู่เสมอ แต่ก็มีสาวๆ หลายคนไม่กล้าที่จะทาลิปสติกสีนี้ เพราะกลัวว่าทาแล้วจะไม่สวยกลายเป็นสีต้องห้ามไปเลยทีเดียว  เคล็ดลับง่ายๆ ของการทาลิปสติกสีแดงให้สวย คือ การเลือกสีลิปสติกให้เหมาะสมสำหรับโทนสีผิวของแต่ละคน  รวมทั้งไม่ไปลงน้ำหนักกับเครื่องสำอางบนใบหน้าส่วนอื่นๆ มากเกินไปนั่นเอง เทคนิคความงามวันนี้ขอเสนอ

เทคนิคของการทาลิปสติกสีแดง มีดังนี้

เทคนิคการแต่งหน้าให้ติดทนนาน

สาวๆ ที่รักการแต่งหน้า มักมีปัญหาที่แก้ไม่ตกอยู่เรื่องหนึ่งคือ เครื่องสำอางไม่ทน บางคนแต่งหน้าไปไม่กี่ชั่วโมงพอเหงื่ออกหรือเจอกับอากาศร้อนๆ เครื่องสำอางที่แต่งมาอย่างดีก็มักจะเลือนหายไป ยิ่งสภาพอากาศบ้านเราในช่วงนี้ยิ่งทำให้ต้องเติมหน้าบ่อยๆ ระหว่างวันเทคนิคความงามวันนี้เรานำ เทคนิคการแต่งหน้าให้ติดทนนาน  มาฝากคุณสาวๆ ค่ะ

Thursday, April 3, 2014

เทคนิคการแต่งหน้าใสๆ สไตล์เกาหลี

เป็นที่รู้กันว่า เทคนิคการแต่งหน้าสไตล์เกาหลี กำลังมาแรงมาก จากกระแสนักร้องดังและซีรีย์ที่เข้ามาฉายในบ้านเรา ทำให้สาวไทยชื่นชอบและคลังไคล้การแต่งหน้าแบบสาวเกาหลีไปด้วย  เนื่องจากสาวๆ เกาหลีมีผิวที่ขาวใส ฉะนั้นเทคนิคความงามของสาวเกาหลี จะเน้นแต่งหน้าแบบธรรมชาติ โชว์ผิวใสๆ แบ๊วๆ มากกว่าการแต่งหน้าแบบเข้มๆ  โดยเคล็ดลับแต่งหน้าเกาหลี มักจะเน้นอะไรที่วาวๆ เช่น กลิตเตอร์ เพื่อเพิ่มความแวววาวให้กับดวงตาและใบหน้า ส่วนแป้งฝุ่น บรัชออน และอายแชโดก็เช่นกัน จะเน้นอะไรที่เป็นชิมเมอร์ๆ ผสม เพื่อให้ผิวดูฉ่ำวาวเหมือนสาวสุขภาพดี ส่วนแก้มจะเน้นบรัชออนในลุคธรรมชาติๆ สีหวานๆ เช่น ชมพูอ่อน ส้มอ่อน หรือสีพีชเบาๆ เรียกว่าแต่งหน้าออกมาแล้วให้   ลุคเหมือนไม่ได้แต่ง แต่สวยใสในแบบธรรมชาติเลยทีเดียว ส่วนสาวไทยท่านใดที่มีปัญหารูขุมขนกว้างก็ควรระวังในเรื่องของการเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีชิมเมอร์หรือกลิตเตอร์ผสมนะคะ อาจใช้ได้แต่ไม่ควรมากเกินไป เนื่องจากจะไปเน้นรูขุมขนให้กว้างมากขึ้นนั่นเอง

วันนี้เราได้รวบรวมเทรนด์แต่งหน้าแบบสาวเกาหลีมาฝากสาวไทย เพื่อเป็นแนวทางในการแต่งหน้าแบบธรรมชาติ สำหรับวันเบาๆ ใสๆ ไปชมกันเลยค่ะ

Sunday, March 30, 2014

เทคนิคการแต่งหน้าเล่นสงกรานต์ แบบมั่นใจไม่กลัวน้ำ

สำหรับเทศกาลสงกรานต์ สาวๆ หลายคนวางแผนกันล่วงหน้ากันยาวทีเดียวว่าจะไปเล่นน้ำสงกรานต์กับแฟนหรือครอบครัวที่ไหนดี สำหรับใครที่จะไปกับคุณแฟนก็อาจจะคิดมากหน่อยว่าจะแต่งหน้าแบบไหนดีถึงจะติดทนโดนสาดน้ำมาก็ยังสวยเป๊ะ เทคนิคความงามวันนี้เรามีเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ ในการแต่งหน้าเล่นน้ำสงกรานต์อย่างไรให้ติดทน แบบมั่นใจไม่กลัวเลอะสำหรับคุณสาวๆ ที่ยังห่วงสวยแต่ก็อยากสนุกสนานกับเทศกาลสนุกสนานของไทยเราที่ปีหนึ่งก็จะเวียนมาครั้งหนึ่ง เราก็ต้องจัดเต็มกันหน่อยจริงไหมคะ

Friday, March 28, 2014

สูตรพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง เทคนิคความงามง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง

เทคนิคความงามวันนี้ เราจะพูดถึงประโยชน์ของน้ำผึ้งค่ะ ว่ากันว่าน้ำผึ้งเป็นยาอายุวัฒนะ เนื่องจากมีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการปรับสมดุลในร่างกายให้คงที่ และยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ต้านทานโรคต่างๆได้ดีอีกด้วย และเนื่องจากน้ำผึ้งมีสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ และสามารถกักเก็บความชื้นไว้ได้ ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นอ่อนนุ่มจึงเหมาะในการใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นต่าง ๆ รวมทั้งการนำน้ำผึ้งมาเป็นส่วนประกอบสูตรพอกหน้าเพื่อแก้ปัญหาผิวพรรณ และช่วยบำรุงผิวหน้าให้สดใส เนียนนุ่ม ชะลอผิวให้ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
สำหรับสูตรพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งนั้นก็มีมากมาย แต่ละสูตรก็เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เราจะมาแนะนำสูตรพอกหน้าจากน้ำผึ้งในแต่ละแบบกันค่ะ

Thursday, March 27, 2014

ดื่มน้ำเพื่อผิวสวย


ความรู้เรื่องสุขภาพวันนี้จะพูดถึงเรื่องน้ำ เป็นที่ทราบกันดีว่าคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 2 ใน 3 ในร่างกาย การดื่มน้ำจึงมีความจำเป็นอย่างมาก นอกจากจะช่วยให้ดับกระหาย คล้ายร้อน และช่วยให้ระบบต่างๆ ของร่างกายดำเนินไปอย่างปกติแล้ว การดื่มน้ำยังมีประโยชน์ช่วยให้ผิวสวยหน้าใสเปล่งปลั่งอีกด้วย แต่อย่าลืมว่าอะไรที่มากเกินไปมักจะเกิดโทษเช่นกัน ฉะนั้นสาวๆ ที่ต้องการดื่มน้ำเพื่อผิวสวยก็ควรจะระวังในเรื่องของปริมาณการดื่มในแต่ละวันด้วยนะคะ เพราะหากดื่มน้ำจนมากเกินความจำเป็นก็กลายเป็นว่าก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายแทน

Monday, March 24, 2014

ความรู้เรื่องสุขภาพ เคล็ดลับ กินอย่างไรไม่ให้อ้วน


ความรู้เรื่องสุขภาพวันนี้ จะมาพูดถึงพฤติกรรมการกินของคุณค่ะ ทุกคนก็อยากที่จะมีหุ่นเพรียวบางสมส่วนกันแทบทั้งนั้น ซึ่งแต่ละคนจะมีเคล็ดลับหุ่นสวย และการดูแลรูปร่างแตกต่างกันออกไป ส่วนหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยที่ต้องคำนึงนอกจากการออกกำลังกายเพื่อลดความอ้วนแล้ว การกินก็เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ที่มีผลต่อน้ำหนักของคุณสาวๆ เช่นกัน วันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับง่ายๆ กินอย่างไรไม่ให้อ้วน และกินอย่างไรให้สุขภาพดี มาฝากกันค่ะ

Friday, March 21, 2014

สมุนไพรกับความงาม


สมุนไพรกับความงาม

หากพูดถึงเรื่อง ความสวย ความงาม แล้ว  หญิงไทยเราก็มีตัวช่วยสำคัญไม่แพ้สาวชาติใดในโลก ตัวช่วยที่ว่าคือ สมุนไพรไทย นั่นเอง  เนื่องจากสมุนไทยนั้น มีมากมายหลายชนิดที่นอกจากจะมีประโยชน์ต่อร่างกายในการเป็นยารักษาโรคต่างๆ แล้ว สมุนไพรไทยยังมีสรรพคุณในด้านการดูแลและรักษาผิวพรรณของสาวไทยเรามาช้านานตั้งแต่รุ่นคุณย่า 

ติดตามเทคนิคความงามที่นี่