Showing posts with label เทคนิคการแต่งหน้า. Show all posts
Showing posts with label เทคนิคการแต่งหน้า. Show all posts

Sunday, May 18, 2014

เทคนิคแต่งหน้ากันเหงื่อหน้าร้อน แต่งอย่างไรให้สวยทนไม่เยิ้ม


หน้าร้อนนี้สาวๆ หลายคนคงประสบปัญหาแต่งหน้าแล้วไม่ติดทน เวลาเหงื่อออกเครื่องสำอางก็ละลายเยิ้ม หน้ามัน แถมแต่งได้แป๊บเดียวก็หลุดออกแล้ว ทำให้ต้องคอยโบ๊ะหน้าบ่อยเกินความจำเป็น ยิ่งทำให้หน้าเป็นคราบหนาโบ๊ะกว่าเดิม วันนี้เรามีเทคนิคการแต่งหน้าสู้แดดหน้าร้อน มาฝากคุณสาวๆ กันค่ะ ขั้นตอนจะเป็นอย่างไรไปดูกัน

ห้ามลืมทาครีมกันแดด  ก่อนแต่งหน้า สิ่งสำคัญที่สาวๆ ห้ามลืมเด็ดขาดเลยคือ การทาครีมกันแดดที่มีค่า spf ที่เหมาะสมกับผิวหน้า แม้จะเป็นวันหยุดอยู่กับบ้านก็ควรทาครีมกันแดดเนื่องจากแม้เราจะไม่ได้ออกนอกบ้านแต่แสงจากไฟฟ้า หรือแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือจอมือถือ ก็สามารถส่งผลต่อผิวหน้าเราได้ โดยหน้าร้อนนี้อาจเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมครีมกันแดดในตัวช่วยให้สะดวกในขั้นตอนเดียว เพื่อผิวเบาบางเหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆ ในตอนนี้

ใช้เครื่องสำอางค์กันน้ำ ควรใช้รองพื้น อายไลเนอร์ และมาสคาร่า ที่มีคุณสมบัติกันเหงื่อหรือกันน้ำได้ดี และไม่ควรทาหนาเกินไป ควรใช้แต่เบาบางจะเหมาะกว่าเนื่องจากหน้าร้อนต่อให้รองพื้นเป็นแบบกันน้ำแต่หากทาหนาเกินไปก็จะให้หน้าเยิ้มมันได้เวลาเจอแดดและเหงื่อออก โดยในส่วนของมาสคาร่าอาจะเปลี่ยนมาให้แบบใสแทนสีดำเข้ม

บรัชออนและอายแชโดเนื้อ เจล หรือทิ้นท์ แทนการใช้บรัชออนแบบฝุ่นหรือครีมที่อาจจะทำให้เครื่องสำอางค์ไหลมารวมตัวกันเป็นก้อนบนใบหน้าได้เวลาเจอเหงื่อหรือเวลาเติมหน้าบ่อยๆ ในหน้าร้อนนี้ ทางที่ดีควรหันมาใช้แบบเจล หรือใช้ทิ้นท์(แบบน้ำ) แทน ส่วนเปลือกตาควรทาอายไพรเมอร์เพื่อให้สีตาติดทนนาน และ

ลิปสติกผสมสารกันแดดเนื้อเบาบาง หน้าร้อนนี้แม้แต่ริมฝีปากก็ควรเลือกใช้ลิปสติกที่มีสารผสมกันแดด เช่น ลิปบาล์ม หรือลิปสติกสีบางเบา เช่น สีชมพูอ่อนๆ จะเหมาะกว่าการทาลิปสติกเนื้อหนาๆและแมทเกินไป

แต่งหน้าให้เบาบางมากที่สุด การแต่งหน้าเพียงบางๆ นอกจากจะช่วยให้ดูสวยใสเป็นธรรมชาติแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาคราบเหงื่อและเครื่องสำอางเป็นปื้นหนาเกินความจำเป็นได้ ที่สำคัญควรระวังหากเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของชิมเมอร์ เนื่องจากความวาวของชิมเมอร์จะยิ่งเพิ่มความมันวาวบนใบหน้ามากเกินไป

picture By stockimages,


Thursday, May 1, 2014

how to แต่งตาแบบ V Shape ง่ายๆ คุณก็ทำได้




การแต่งตาแต่ละแบบ เหมาะกับลักษณะตาที่แตกต่างกันออกไป โดยส่วนมากแล้วไม่ยากค่ะ ข้อสำคัญคือต้องรู้จักการเบลนสีที่ถูกวิธี หากใครทียังมือใหม่ เพิ่งเริ่ม หัดแต่งหน้า ก็พยายามเกลี่ยสีอายแชโด อย่างเบามือและแต้มทีละน้อยๆไปหามาก เพื่อกันความผิดพลาดทีจะเกิดขึ้นสำหรับ เทคนิคการแต่งหน้า ที่จะอธิบายวันนี้ ก็คือ การแต่งตาแบบ V- Shape แต่งแบบไหนอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ


 จากในรูปจะเห็นว่าไม่ยากเลย จำง่ายๆ หลักๆ เลยคือ หัวจาง(อ่อน) หางเข้ม (หัวกับหางในที่นี้หมายถึงหัวตากับหางตานะคะ หัวตาคือฝั่งที่ใกล้จมูก ส่วนหางคือฝั่งติดกับขมับนะจ้ะสาวๆ ที่ต้องอธิบายละเอียดขนาดนี้เนื่องจากยังมีบางคนสับสนระหว่างหัวกับหางค่ะ
V Shape eyes

วิธีแต่งตาแบบ V- Shape  ก็คือ 

  • ใช้สีอ่อนหรือสีสว่างทาทั่วเปลือกตาก่อน เน้นหัวตาให้สว่างเข้าไว้ จะใช้สีไหนก็ได้คะในการจับคู่ ยกตัวอย่างเช่น หากชอบสีชมพู ก็ให้ใช้สีชมพูอ่อนทาทั่วเปลือกตา 
  • จากนั้นแต้มสีชมพูเข้มแตะตรงหางตา ไม่ควรเกินปลายหางคิ้ว แล้วค่อยๆ เบลนสีโดยเกลี่ยเข้ามาทางหัวตาช้าๆ พยายามไม่ให้เห็นเป็นเส้น ค่อยๆ เกลี่ยจากชิดขอบตาขึ้นไปเรื่อยๆ จนสีเข้มดูฟุ้งๆ เป็นลักษณะตัว V โดยก้นตัววีจะหันออกไปทางขมับเรา ง่ายๆ คือลักษณะเหมือนตัววีนอนตะแคงนั่นเองค่ะ  
  • หากหางตาสีไม่เข้มพอ สามาถแตะสีดำผสมเข้าไปอีก หรืออาจใช้โทนสีใกล้เคียงกันได้ค่ะ ปกติสีที่มาในพาเลทแต่งตาเค้าจะกำหนดมาให้และไล่สีให้เรียบร้อยจากอ่อน กลาง เข้ม


หลักการจับคู่สีก็อย่างที่กล่าวไป คือ หัวตาใช้สีอ่อนทาบางๆ หางตาใช้สีเข้มเพื่อที่เราจะได้เห็นความแตกต่างระหว่างสองสีนั่นเอง หลักการนี้ใช้ได้กับทุกสีนะคะ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าใครชอบม่วงก็ใช้ม่วงอ่อนหัวตา หางตาก็ทาม่วงเข้ม  เขียวอ่อน-เขียวเข้ม ฟ้าอ่อน-น้ำเงินเข้ม เป็นต้น

tips: จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีหลักตายตัวว่าจะต้องใช้โทนสีเดียวกันมาตัดกันค่ะ อาจใช้สีดำในการตัดสีได้กับทุกสี เช่น ชมพู-ดำ  เขียว-ดำ หรือแม้แต่สีที่คนละโทนก็นำมาทาตัดกันได้ค่ะ แค่จำไว้ว่าหัวตาต้องอ่อนเข้าไว้ และหางตาต้องเข้มกว่า พยามเกลี่ยจุดตรงกลางระหว่างสองสีให้สม่ำเสมอกัน ง่ายๆ แค่นั้นเองคะ

หวังว่า เทคนิคการแต่งตา ที่อธิบายไปคงทำให้สาวๆ ที่เริ่มหัดแต่งตาจะได้ความรู้มากขึ้นนะคะ ส่วนจะแต่งตาอย่างไรให้สวย ก็ต้องอยู่ที่ความชำนาญของแต่ละคนที่จะฝึกฝนล่ะค่ะ ใครจะชอบสีไหนก็ต้องลองเล่นดูค่ะ ขอแนะนำว่าลองเอาสีผสมกันให้ออกมาเป็นสีใหม่ก็สวยไปอีกแบบค่ะ อย่างที่บอกการแต่งหน้าไม่มีหลักตายตัวค่ะ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ต้องลองเล่น ลองหัดผสมสี โดยแค่จำเฉพาะเรื่องพื้นฐานและการเบลนสีก็พอ ซึ่งก็ไม่ยากเกินความสามารถสาวๆ ที่ชอบการแต่งหน้าอยู่แล้ว อย่างไรก็ขอให้สนุกกับการแต่งตาที่เราแนะนำไปนะคะ พบกันใหม่คราวหน้ากับ การแต่งตาแบบสโมกกี้



Share


Sunday, April 13, 2014

เทคนิคการแต่งหน้าแบบธรรมชาติใสๆ กระชากใจหนุ่ม


             เทคนิคความงามวันนี้ จะมาพูดถึง เทคนิคการแต่งหน้าลุคธรรมชาติ ใสๆ กันค่ะ เคยไหมคะสาวๆ แต่งหน้าทีไรมักติดนิสัย แต่งหน้าเข้มแบบจัดเต็ม วันไหนแต่งหน้าเบาๆ กลับรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจไม่ค่อยชินต้องคอยเติมนั่นนิด นู่นหน่อย สุดท้ายต้องจบลงด้วยใบหน้าเข้มๆ จนบางครั้งหนุ่มข้างกายบ่นกระปอดกระแปดทุกครั้งที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน การแต่งหน้าใสๆ บ้างกลับช่วยให้เราดูสวยใสและอ่อนกว่าวัยกว่าการแต่งหน้าเข้มๆ อีก การแต่งหน้าลุคธรรมชาติไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ เคล็ดลับคือ การเน้นโชว์ผิวธรรมชาติของเราให้มากที่สุด ขั้นตอนมีดังนี้
  •  เปลี่ยนจากรองพื้นหนักๆ มาเป็นการเลือกทาเฉพาะเบสใส  หรือบีบีเนื้อบางเบา บางครั้งการแต่งหน้าเพื่อวันเบาๆ ให้ลุคธรรมชาติไม่จำเป็นต้องลงรองพื้นทุกครั้ง อาจเปลี่ยนมาใช้แค่เบสหรือบีบีในปริมาณที่เล็กน้อย เพื่อปรับสภาพใบหน้าให้ดูผ่องใสเป็นธรรมชาติ
  • ใช้แป้งฝุ่นเนื้อโปร่งแสง แทนการทาแป้งผสมรองพื้นหนาๆ บางครั้งแป้งฝุ่นที่มีสี หรือแป้งตลับผสมรองพื้นจะยิ่งเพิ่มความหนาให้กับใบหน้ามากกว่าเดิม
    ตัวอย่างการเขียนคิ้วตรง
  • เขียนคิ้วให้ดูหนาและตรง การเขียนคิ้วเส้นเล็กและโก่งมากจนเกินไปจะยิ่งทำให้เราดูมีอายุและแก่กว่าวัย เทคนิคง่ายๆ คือเขียนตามรูปคิ้วเดิมพยายามอย่าลากดินสอให้เชิดขึ้นมากเกินไป
  • ทาตาด้วยอายแชโดสีสว่างหรือสีอ่อนๆ โดยอาจลงอายไพรเมอร์แล้วตามด้วยอายแชโดเนื้อครีมหรือเนื้อฝุ่นที่มีชิมเมอร์ผสมนิดๆ ทาให้ทั่วเปลือกตาบางๆ การแต่งตาด้วยชิมเมอร์นิดๆ จะช่วยให้ดวงตาดูสดใสอ่อนกว่าวัยลงได้ เทคนิคคือ งดคัดเบ้าตาหนักๆ
  • ดัดขนตาและปัดมาสคาร่าแบบใส แทนการใช้มาสคาราสีเข้มเหมือนที่ผ่านมาไม่จำเป็นต้องใช้แบบกันน้ำ และงดขนตาปลอมสำหรับลุคนี้
  • ปัดแก้มด้วยบรัชออนสีอ่อนๆ เนื้อครีมหรือฝุ่น หรืออาจมีชิมเมอร์ผสมเล็กน้อย เวลาใบหน้าตกกระทบแสงแดดจะทำให้ดูหน้าผ่องใสดูอ่อนกว่าวัย(ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง)
  • ทาลิปกลอสหรือลิปสติกสีอ่อน เช่น ชมพู สีพีช หรืออาจะใช้ทิ้นสีเข้มทาบริเวณปากด้านในตามด้วย  ลิปกลอสสีอ่อนทาทับอีกรอบแบบสาวอั้ม พัชราภา จะให้ลุคที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าการทาลีปสติกสีเข้มทั่วทั้งริมฝีปาก
         ขั้นตอนง่ายๆ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้สาวๆ ได้ไอเดียและเทคนิคการแต่งหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และได้       ลุคธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยให้ผิวหน้าได้พักผ่อนและลดการอุดตันจากเครื่องสำอางหนาๆ อีกด้วย

>>>

Sunday, April 6, 2014

เทคนิคการแต่งหน้าแบบพริตตี้ ส่องเมคอัพพริตตี้สวยๆ งานมอเตอร์โชว์ 2014

ผ่านพ้นกันไปแล้วสำหรับงานมอเตอร์โชว์ 2014 นอกจากจะมีรถหลากหลายแบบมาให้เลือกชมกันแล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือสาวๆ พริตตี้นั่นเองที่เป็นสีสันและเรียกแขกให้งานนี้ได้อย่างดี หลายคนติดใจในความสวยใสไปตามๆ กัน โดยเฉพาะการแต่งหน้าพริตตี้ เรียกได้ว่าแจ่มๆ กันทั้งนั้นสาวๆ หลายคนคงสงสัยว่าเทคนิคการแต่งหน้าแบบพริตตี้มีอะไรบ้าง จริงๆ เคล็ดลับสำคัญของการแต่งหน้าของสาวๆ พริตตี้คือ หน้าต้องแน่น สว่าง และผ่อง ติดขนตาเด้งๆ กรีดตาให้คมเข้ม แค่นี้ก็สามารถแต่งตามไม่ยากแล้ว แต่ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออกเรามีภาพเมคอัพสวยๆ จากสาวๆ พริตตี้งานมอเตอร์โชว์ 2014 มาฝากกัน เพื่อเป็นแนวทางการแต่งหน้าและได้ไอเดียวเทคนิคความงามใหม่ๆ ไปชมกันเลยค่ะ 

“ชิมเมอร์” แต่งอย่างไรให้สวย ดิ้วอี้แบบสาวเกาหลี

เครื่องสำอางในท้องตลาดทุกวันนี้มักผสมชิมเมอร์เข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มความแวววาวสดใสให้กับสาวๆ ที่รักการแต่งหน้าทั้งหลาย ในที่นี้อาจมีสาวๆ หลายคนที่ยังไม่รู้ว่าชิมเมอร์คืออะไร ชิมเมอร์มีกี่ประเภท และมีความแตกต่างกันอย่างไร  ชิมเมอร์ คือ ประกายแวววาวที่ผสมอยู่ในเครื่องสำอางชนิดต่างๆ ช่วยให้การแต่งหน้าให้ผิวดูฉ่ำวาวได้ลุคดิวอี้ แบบเทรนด์สาวเกาหลี นั่นเองค่ะ เทคนิคความงามวันนี้ขอเสนอ

Saturday, April 5, 2014

ทาลิปสติกสีแดงอย่างไรให้สวย


ไม่ว่าจะยุคไหนๆ ลิปสติกสีแดงไม่เคยจะตกยุคและยังคงเป็นสีสากลที่ได้รับความนิยมคงความคลาสสิคอยู่เสมอ แต่ก็มีสาวๆ หลายคนไม่กล้าที่จะทาลิปสติกสีนี้ เพราะกลัวว่าทาแล้วจะไม่สวยกลายเป็นสีต้องห้ามไปเลยทีเดียว  เคล็ดลับง่ายๆ ของการทาลิปสติกสีแดงให้สวย คือ การเลือกสีลิปสติกให้เหมาะสมสำหรับโทนสีผิวของแต่ละคน  รวมทั้งไม่ไปลงน้ำหนักกับเครื่องสำอางบนใบหน้าส่วนอื่นๆ มากเกินไปนั่นเอง เทคนิคความงามวันนี้ขอเสนอ

เทคนิคของการทาลิปสติกสีแดง มีดังนี้

เทคนิคการแต่งหน้าให้ติดทนนาน

สาวๆ ที่รักการแต่งหน้า มักมีปัญหาที่แก้ไม่ตกอยู่เรื่องหนึ่งคือ เครื่องสำอางไม่ทน บางคนแต่งหน้าไปไม่กี่ชั่วโมงพอเหงื่ออกหรือเจอกับอากาศร้อนๆ เครื่องสำอางที่แต่งมาอย่างดีก็มักจะเลือนหายไป ยิ่งสภาพอากาศบ้านเราในช่วงนี้ยิ่งทำให้ต้องเติมหน้าบ่อยๆ ระหว่างวันเทคนิคความงามวันนี้เรานำ เทคนิคการแต่งหน้าให้ติดทนนาน  มาฝากคุณสาวๆ ค่ะ

Thursday, April 3, 2014

เทคนิคการแต่งหน้าใสๆ สไตล์เกาหลี

เป็นที่รู้กันว่า เทคนิคการแต่งหน้าสไตล์เกาหลี กำลังมาแรงมาก จากกระแสนักร้องดังและซีรีย์ที่เข้ามาฉายในบ้านเรา ทำให้สาวไทยชื่นชอบและคลังไคล้การแต่งหน้าแบบสาวเกาหลีไปด้วย  เนื่องจากสาวๆ เกาหลีมีผิวที่ขาวใส ฉะนั้นเทคนิคความงามของสาวเกาหลี จะเน้นแต่งหน้าแบบธรรมชาติ โชว์ผิวใสๆ แบ๊วๆ มากกว่าการแต่งหน้าแบบเข้มๆ  โดยเคล็ดลับแต่งหน้าเกาหลี มักจะเน้นอะไรที่วาวๆ เช่น กลิตเตอร์ เพื่อเพิ่มความแวววาวให้กับดวงตาและใบหน้า ส่วนแป้งฝุ่น บรัชออน และอายแชโดก็เช่นกัน จะเน้นอะไรที่เป็นชิมเมอร์ๆ ผสม เพื่อให้ผิวดูฉ่ำวาวเหมือนสาวสุขภาพดี ส่วนแก้มจะเน้นบรัชออนในลุคธรรมชาติๆ สีหวานๆ เช่น ชมพูอ่อน ส้มอ่อน หรือสีพีชเบาๆ เรียกว่าแต่งหน้าออกมาแล้วให้   ลุคเหมือนไม่ได้แต่ง แต่สวยใสในแบบธรรมชาติเลยทีเดียว ส่วนสาวไทยท่านใดที่มีปัญหารูขุมขนกว้างก็ควรระวังในเรื่องของการเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีชิมเมอร์หรือกลิตเตอร์ผสมนะคะ อาจใช้ได้แต่ไม่ควรมากเกินไป เนื่องจากจะไปเน้นรูขุมขนให้กว้างมากขึ้นนั่นเอง

วันนี้เราได้รวบรวมเทรนด์แต่งหน้าแบบสาวเกาหลีมาฝากสาวไทย เพื่อเป็นแนวทางในการแต่งหน้าแบบธรรมชาติ สำหรับวันเบาๆ ใสๆ ไปชมกันเลยค่ะ

Sunday, March 30, 2014

เทคนิคการแต่งหน้าเล่นสงกรานต์ แบบมั่นใจไม่กลัวน้ำ

สำหรับเทศกาลสงกรานต์ สาวๆ หลายคนวางแผนกันล่วงหน้ากันยาวทีเดียวว่าจะไปเล่นน้ำสงกรานต์กับแฟนหรือครอบครัวที่ไหนดี สำหรับใครที่จะไปกับคุณแฟนก็อาจจะคิดมากหน่อยว่าจะแต่งหน้าแบบไหนดีถึงจะติดทนโดนสาดน้ำมาก็ยังสวยเป๊ะ เทคนิคความงามวันนี้เรามีเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ ในการแต่งหน้าเล่นน้ำสงกรานต์อย่างไรให้ติดทน แบบมั่นใจไม่กลัวเลอะสำหรับคุณสาวๆ ที่ยังห่วงสวยแต่ก็อยากสนุกสนานกับเทศกาลสนุกสนานของไทยเราที่ปีหนึ่งก็จะเวียนมาครั้งหนึ่ง เราก็ต้องจัดเต็มกันหน่อยจริงไหมคะ

ติดตามเทคนิคความงามที่นี่