Sunday, April 13, 2014

ฟื้นฟูผิวไหม้แดดจากสงกรานต์ ด้วยเคล็ดลับง่ายๆ แต่ได้ผล

 หลังเทศกาลสงกรานต์แต่ละปี สาวๆ มักเจอปัญหาผิวไหม้เกรียมจากแสงแดดที่แผดเผาระหว่างเล่นน้ำ ทำให้เกิดอาการแสบร้อนผิวกายและผิวหน้าตามมา สร้างความทรมานอย่างมากเนื่องจากทั้งแสบทั้งคันไม่สบายผิวเอามากๆ ยิ่งหลังจากเวลาผ่านไปแล้วผิวที่ถูกไหม้จะกลับดำคล้ำและลอกออกมา หากดูแลไม่ดีจะทำให้ผิวสวยๆ มีสีที่ไม่สม่ำเสมอและดำคล้ำกระดำกระด่างได้ วันนี้เทคนิคความงามมีเคล็ดลับการฟื้นฟูผิวไหม้จากแสงแดดหลังเล่นน้ำสงกรานต์มาฝากกันค่ะ
  •  หลีกเลี่ยงการสครับผิวในช่วงแรก ก่อนอื่นในช่วงแรกอาการจะยังคงแสบร้อนผิวอยู่มาก ในช่วงนี้ควรงดการสครับผิวไปก่อน และควรใช้ผลิตภัณฑ์จำพวก after sunเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณหลังการออกแดดหรือว่านหางจระเข้ลูบไล้บริเวณที่แดดไหม้ และใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งก้อนประคบตามร่างกายและผิวหน้าเพื่อบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน 
  • งดครีมเพื่อผิวขาวหรือมีส่วนผสมAHA ช่วงนี้ยังไม่ต้องรีบร้อนใช้ครีมจำพวกที่ทำให้ผิวขาวหรือมีส่วนผสมของ AHAเนื่องจากผิวเรายังไหม้อยู่ระหว่างนี้ควรรอให้ผิวหนังที่ถูกไหม้ตกสะเก็ดและลอกออกไปเสีย ก่อน ฉะนั้น ควรใช้ after sun รวมทั้งครีมหรือเจลพวกว่านหางจระเข้ต่อไปเรื่อยๆ
  • หลังผิวลอกทาครีมบำรุงและกันแดดตามปกติ เมื่อผิวเสียจากการไหม้แดดลอกออกหมดแล้วระหว่างนี้คือขั้นตอนการบำรุงผิวที่เกิดใหม่ไม่ให้ดำคล้ำโดยการทาครีมกันแดดและครีมบำรุงอย่างต่อเนื่อง 
  • สครับผิวอาทิตย์ละครั้ง ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วเพื่อเผยผิวใหม่ให้ขาวใส ต้องมั่นใจว่าผิวเกิดใหม่หลังจากถูกไหม้แดดแข็งแรงดีแล้ว จึงจะสามารถสครับผิวได้ โดยส่วนผสมง่ายๆ เช่น น้ำผึ้ง นมสด มะขามเปียก โยเกิร์ต และเกลือสปา เข้าด้วยกันและพอกให้ทั่วทั้งร่างกาย สครับเบาๆ ก่อนล้างออก และทาครีมบำรุงอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้อาจเริ่มใช้ครีมบำรุงที่ช่วยในเรื่องผิวขาวกระจ่างใสในช่วงนี้ 
  • ทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารกันแดด เมื่อผ่านช่วงเวลาเลวร้ายของผิวถูกทำร้ายมาแล้ว เราก็ควรกลับมาดูแลพิวพรรณของเราให้เป็นปกติและอาจจะมากขึ้นเป็นพิเศษด้วยการทาครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าและผิวกาย รวมทั้งใช้ครีมกันแดด ประมาณ 30 นาที ก่อนออกนอกบ้านทุกครั้ง 
          เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณสาวๆ เผยผิวใหม่อย่างมั่นใจได้อีกครั้ง

photo by posterize 

>>>>สุมนไพรกับความงาม

No comments:

Post a Comment

ติดตามเทคนิคความงามที่นี่